มี IT แล้ว ทำไมยังต้องมี ERP Implementer?

เพราะระบบที่ดี ต้องมีคนวางแผนให้เหมาะกับธุรกิจ ไม่ใช่แค่ลงโปรแกรมแล้วจบ !!!

หลายธุรกิจที่เริ่มเติบโต โดยเฉพาะกลุ่ม SME อาจรู้สึกว่าแค่มีฝ่าย IT ดูแลระบบในบริษัทก็น่าจะเพียงพอแล้ว


แต่เมื่อถึงจุดที่ต้องการยกระดับการทำงานให้เป็นระบบมากขึ้น — โดยเฉพาะการนำ ERP มาใช้


เจ้าของกิจการหลายรายกลับพบว่า

ระบบที่ลงทุนไป กลับไม่ตอบโจทย์เท่าที่ควร

สาเหตุหนึ่งคือ การขาด “ผู้เชี่ยวชาญในการวางระบบ ERP” ที่เข้าใจทั้งมุมมองของเทคโนโลยี และกระบวนการทางธุรกิจ

แล้วทีม IT กับผู้วางระบบ ERP ต่างกันอย่างไร?

  • ฝ่าย IT 
    ทำหน้าที่ดูแลระบบพื้นฐาน เช่น เซิร์ฟเวอร์ อุปกรณ์เครือข่าย ระบบอินทราเน็ต ซอฟต์แวร์ทั่วไป

    พวกเขาชำนาญด้าน “เทคนิค” และการแก้ปัญหาเชิงระบบ

  • ส่วน ERP Implementer หรือที่ปรึกษาด้านระบบ
    คือผู้ที่เข้าใจว่าแต่ละแผนกในองค์กรทำงานอย่างไร มีขั้นตอนอะไรบ้าง และจะนำระบบ ERP มาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้อย่างไร

    พวกเขาไม่ได้แค่ “ติดตั้งโปรแกรม”

    แต่จะเป็นคนออกแบบกระบวนการทำงานใหม่ทั้งหมด เพื่อให้ใช้งานได้ราบรื่น มีประสิทธิภาพ และลดความซับซ้อน

ตัวอย่างง่าย ๆ

ลองนึกภาพว่า ERP คือระบบไฟฟ้าทั้งหลังบ้าน

  • ทีม IT คือช่างที่เชี่ยวชาญเรื่องสายไฟ 
    ปลั๊ก ฮาร์ดแวร์ต่าง ๆ
  • แต่ ERP Implementer เปรียบเหมือนสถาปนิก ที่ออกแบบว่าควรติดไฟสวิตช์ไว้ตรงไหน เพื่อให้ใช้งานสะดวกในชีวิตจริง

ปัญหาที่มักเจอเมื่อไม่มี ERP Implementer

❌ ระบบไม่เข้ากับวิธีทำงานเดิม

ทีม IT อาจไม่ได้เข้าใจว่าแผนกจัดซื้อหรือฝ่ายขายมีขั้นตอนเฉพาะอย่างไร
ทำให้ระบบที่ลงไว้ไม่สอดคล้องกับวิธีทำงานของพนักงานจริง
สุดท้ายก็ไม่ถูกใช้งานอย่างเต็มประสิทธิภาพ

❌ พนักงานใช้ระบบไม่ถูก หรือไม่อยากใช้เลย

การวางระบบ ERP จำเป็นต้องมีแผนการอบรม และวิธีการเปลี่ยนแปลงที่เหมาะกับแต่ละระดับในองค์กร
หากไม่มีผู้วางระบบช่วยวางโครงสร้าง พนักงานอาจเกิดแรงต้าน และไม่ยอมเปลี่ยนวิธีทำงานเดิม

❌ ธุรกิจต้องปรับเข้าหาระบบ แทนที่ระบบปรับตามธุรกิจ

ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นเลย หากมีผู้วางระบบที่เข้าใจธุรกิจจริง ๆ

กรณีศึกษา: ร้านค้าส่งอะไหล่ยนต์ ที่เจอปัญหาคลังสินค้า

ร้านค้าส่งอะไหล่ยนต์ขนาดกลางแห่งหนึ่งต้องการใช้ระบบ ERP เพื่อบริหารสต๊อก แต่ไม่มีผู้วางระบบคอยช่วยเหลือ ผลคือ 

  • เกิดความสับสนระหว่างคลังหลักและคลังสาขา 
  • สินค้าถูกเบิกซ้ำ 
  • ข้อมูลไม่อัปเดตแบบเรียลไทม์ 
  • ทีมงานแต่ละสาขาก็ใช้งานระบบไม่ตรงกัน

หลังจากร่วมงานกับผู้เชี่ยวชาญ ERP จาก Cybernetics Plus ร้านค้าได้รับการออกแบบโครงสร้างข้อมูลใหม่ให้เหมาะกับพฤติกรรมการสั่งซื้อ แยกบทบาทผู้ใช้ในแต่ละแผนก พร้อมเทรนการใช้งานแบบ step-by-step ผลคือ 

  • ข้อมูลสต๊อกแม่นยำขึ้นกว่า 90% 
  • ลดเวลาทำงานเอกสารลงครึ่งหนึ่ง

แล้ว Cybernetics Plus ช่วยอะไรได้บ้าง?

ทีมงานของเราทำงานในบทบาท "คู่คิดทางธุรกิจ" มากกว่าแค่ทีมเทคนิค
เราจะวิเคราะห์รูปแบบการดำเนินงานของคุณ แล้วแปลงเป็นโซลูชัน ERP ที่ใช้งานได้จริง
ตั้งแต่การวางโครงสร้างระบบ การตั้งค่าโมดูล ไปจนถึงการฝึกอบรมทีมงานทุกระดับ

สรุป

ERP ไม่ใช่แค่การลงซอฟต์แวร์ แต่คือการวางระบบให้ธุรกิจเดินหน้าด้วยความชัดเจน
มีทีม IT อย่างเดียว อาจไม่พอแต่การมี ERP Implementer ที่เข้าใจธุรกิจของคุณ จะช่วยให้การเปลี่ยนผ่านสู่ระบบใหม่ ราบรื่นและได้ผลจริง
หากคุณคือเจ้าของธุรกิจ SME ที่กำลังมองหาแนวทางเพิ่มประสิทธิภาพองค์กร

ลองให้ Cybernetics Plus เป็นผู้ช่วยคิด วางแผน และเดินหน้าไปกับคุณครับ

นิ้ว Odoo ERP
แท็ก
บล็อกของเรา
เก็บถาวร
ลงชื่อเข้าใช้ ที่จะแสดงความคิดเห็น
เช็กลิสต์ SME ก่อนตัดสินใจใช้ ERP