ธุรกิจต้องใหญ่แค่ไหนถึงจะใช้ระบบ ERP

    ก่อนอื่นต้องอธิบายให้ผู้อ่านทุกท่านทราบก่อนค่ะว่า ระบบ ERP ย่อมาจาก Enterprise Resource Planning ซึ่งหมายถึงระบบในการบริหารจัดการภาพรวมขององค์กร ไม่ว่าจะเป็นด้านการวางแผน การผลิต การบริหาร การเงิน เป็นต้น ทั้งนี้ระบบ ERP จะมีการรวมข้อมูลทุกส่วนของกิจการ บันทึกไว้ใน Database หลัก ทำให้ฝ่ายบริหารหรือฝ่ายอื่นๆ ที่ต้องการใช้ข้อมูลสามารถดึงข้อมูลที่ต้องการออกมาได้ทันที และทำให้องค์กรสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลดความผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นได้
    หากถามว่าระบบ ERP มีความจำเป็นมากน้อยเพียงใด ขอยกตัวอย่างเพื่อให้ผู้อ่านเห็นภาพได้ชัดเจนมากขึ้น ลองนึกภาพว่าหากวันนี้คุณเป็นเจ้าของธุรกิจผลิตและส่งออกเครื่องประดับ แน่นอนว่าในอุตสาหกรรมไม่ได้มีแค่บริษัทของคุณ บริษัทเดียวแต่ยังมีคู่แข่งทั้งทางตรงและทางอ้อมอีกหลายบริษัท แล้วคุณต้องการวางแผน กลยุทธ์ในการดำเนินงานของปีถัดไป ลองนึกภาพในหัวง่ายๆค่ะว่า วันนี้ถ้าเราจะวางกลยุทธ์ใดก็แล้วแต่ สิ่งที่คุณต้องทราบก่อนวางกลยุทธ์คืออะไรบ้าง คำตอบอาจเป็นยอดขายในไตรมาสที่ผ่านมา ข้อมูลการผลิตของสินค้าที่เคยผลิตออกไป การทำ CRM กับลูกค้าได้ผล
อย่างไรบ้าง หรือข้อมูลทางด้านบัญชีทั้งหมดของกิจการ จากที่อ่านมาเมื่อสักครู่เป็นเพียงข้อมูลบางส่วนที่คุณคิดว่าจะต้องรู้ แต่ในความเป็นจริงคุณจะเป็นจะต้องทราบข้อมูลในภาพรวมทั้งหมดของกิจการเพื่อให้สามารถวางแผนกลยุทธ์ที่เหมาะสมที่สุดในช่วงเวลานั้นๆได้ ทั้งด้าน บัญชี, Sale, Human Resources, Manufacturing, Marketing, Inventory, Purchase เป็นต้น แล้วคุณคิดว่าหากต้องการข้อมูลทั้งหมดนี้จะต้องใช้ระยะเวลาเท่าใดในการรวมรวมข้อมูล คำตอบในใจ อาจเป็น 3 วัน, 1 สัปดาห์ หรือ 1 เดือน หากวันนี้เราใช้เวลาเร็วที่สุดในการได้มาซึ่งข้อมูลนั้น 1 วัน คำถามคือ ถ้าคู่แข่งสามารถทราบข้อมูลทั้งหมดที่ท่านใช้เวลาหา 1 วัน ได้ในเวลาเพียงแค่ 3 นาที วันนี้ธุรกิจของท่านยังจะสามารถต่อสู้กับคู่แข่งได้อยู่หรือไม่?
ระบบ ERP ไม่เพียงแค่อำนวยความสะดวกในการทำงานให้กับพนักงานของคุณเท่านั้น จริงๆแล้วระบบนี้ยังสามารถทำให้คุณมีเวลามากกว่าคู่แข่ง มีข้อมูลในการตัดสินใจที่แม่นยำมากขึ้น มีการ forecast ด้านการจัดซื้อ การขายที่อิงหลักความเป็นจริงของสิ่งที่เกิดขึ้นภายในกิจการ และสามารถทำให้คุณวางแผนและตัดสินใจได้ง่ายและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

    ถ้าวันนี้ ระบบ ERP สำคัญ แล้วองค์กรต้องใหญ่ขนาดไหนถึงจะสามารถนำระบบนี้มาใช้ได้ คำตอบที่ Cybernetics Plus มักบอกกับลูกค้าเสมอเลยคือ คุณไม่จำเป็นต้องเริ่มทั้งหมดภายครั้งเดียว แต่คุณอาจจะลอง Focus ในส่วนที่จำเป็นก่อนเช่นด้านบัญชี หรือ Sale หลังจากนั้นค่อยพัฒนาในเฟตถัดไป และตัวอย่างที่เรามักจะเล่าให้ลูกค้าเห็นภาพมากขึ้นคือ วันนี้ระบบ ERP ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไปสำหรับคนทำธุรกิจ ยกตัวอย่างเช่นร้านก๋วยเตี๋ยวที่มีการนำวิธีการของระบบ ERP มาปรับใช้ ปกติแล้วร้านจะมียอดขายต่อวันอยู่ที่ 100 ชามต่อวัน สิ่งที่ร้านก๋วยเตี๋ยวร้านนี้ทำคือ สังเกตุลูกค้าว่า ลูกค้ามาเยอะที่สุกช่วงเวลาใด จากการสังเกตุพบว่าลูกค้ามาเยอะที่สุดตั้งแต่เวลา 11.45 เป็นต้นไป จนถึง เวลา 13.00 น. ถ้าวันนี้ร้านต้องการยอดขายมากกว่า 100 ชาม สิ่งที่ร้านควรทำคืออะไร คำตอบในใจคุณอาจจะเป็นการเพิ่มจำนวนโต๊ะ เพิ่มสาขา หรือขยายร้าน แต่มันมีวิธีการที่ง่ายกว่านั้น และไม่ต้องใช้เงินลงทุนแม้แต่บาทเดียว เพียงแค่เรารู้ข้อมูลของลูกค้าและสามารถวิเคราะห์ได้อย่างตรงจุด วิธีการคือเราแค่ลวกเส้นก๋วยเตี๋ยวให้สุกสัก 30% เพื่อรอลูกค้า เมื่อลูกค้าเข้ามาในร้าน ร้านจะสามารถบริการจัดการเวลาได้เร็วขึ้น นั่นหมายความว่าจะใช้ระยะเวลาในการทำสั้นลง และสามารถขยาดได้ในปริมาณที่มากขึ้น รองรับลูกค้าได้เพิ่มขึ้น โดยที่ไม่ต้องใช้ทรัพยากรใดๆเพิ่มเลย
เห็นหรือยังคะว่าต่อให้เป็นธุรกิจขนาดเล็กอย่างร้านก๋วยเตี๋ยว หรือเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ระบบ ERP ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สามารถทำให้กระบวนการทำงานนั้นง่ายขึ้น และสามารถเพิ่มรายได้ให้กับธุรกิจมากขึ้น 

    วันนี้ Cybernetics Plus ยินดีที่จะให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการบริการจัดการองค์กรของคุณ และเราพร้อมที่จะเติบโตเคียงข้างธุรกิจของคุณ