ระบบ ERP ในปัจจุบัน ถูกจำแนกออกมาอย่างชัดเจน เป็น 3 กลุ่ม ซึ่งได้แก่
1. กลุ่มซอฟท์แวร์ระดับโลก ได้แก่ SAP, MS Dynamic, Maximo, B1 และ Odoo เป็นต้น กลุ่มนี้มักนิยมใช้ในองค์กรขนาดใหญ่ เนื่องจากความน่าเชื่อถือสูง รองรับข้อมูลจำนวนมากได้เป็นอย่างดี และยังได้รับการยอมรับจากคู่ค้าทางธุรกิจอีกด้วย หากกิจการมีงบประมาณตั้งแต่ 2-5 ล้าน เป็นต้นไป และต้องการเลือกใช้ซอฟท์แวร์เข้ามาบริหารงานแนะนำให้เลือกกลุ่มนี้ เนื่องจากความน่าเชื่อถือ และการบำรุงรักษา แก้ไขปัญหาการใช้งาน พร้อมกับปรับแต่งส่วนต่าง ๆ ตามความต้องการขององค์กรนั่นเอง สำหรับปัญหาของการใช้ซอฟท์แวร์ระดับโลก หลัก ๆ คือ ราคาที่สูงมาก ไม่ว่าจะเป็นการเริ่มนำมาใช้งาน (Implementation) การปรับแต่ง (Customization) ค่าบำรุงรักษาประจำปี (Service Fee) รวมไปถึงค่าฝึกอบรม (Training) เป็นต้น ซึ่งกิจการของท่านจะต้องสำรองงบประมาณไว้ในแต่ละปี (Budget) ในระดับที่มากกว่า 1 ล้านบาท
2. กลุ่มซอฟท์แวร์สำเร็จรูป ที่มีจำหน่ายอยู่ตามท้องตลาด อาทิ โปรแกรมบัญชี, โปรแกรมการขาย, โปรแกรมการผลิต และโปรแกรมบริหารงานบุคคล เป็นต้น ข้อดีของซอฟท์แวร์ลักษณะดังกล่าว คือ ราคาที่ถูกกว่า และตรงกับความต้องการของผู้ใช้งานเฉพาะด้าน แต่ข้อเสีย หรือข้อจำกัดของการใช้ซอฟท์แวร์สำเร็จรูปก็คือ ข้อมูลที่ได้ไม่เชื่อมโยงกัน เพราะเป็นโปรแกรมแยก, ความยุ่งยากในการแก้ไข ปรับแต่งระบบ, ความน่าเชื่อถือของในบางบริษัทไม่มี เมื่อนำซอฟท์แวร์ไปใช้อาจจะมีความผิดพลาด และไม่ได้รับการดูแลเท่าที่ควรก็เป็นได้
3. กลุ่มซอฟท์แวร์ ERP ที่เป็นโอเพ่นซอร์ส (Open Source) ได้แก่ Odoo และ ERPNext เป็นต้น กลุ่มนี้มีความสามารถเทียบเท่ากับซอฟท์แวร์ระดับโลก ในราคาที่ถูกลง และมีโมดูลต่าง ๆ ให้เลือกอย่างมากมาย ซึ่งเราสามารถเลือกใช้ให้เหมาะกับองค์กร และงบประมาณที่มีได้ ซึ่งหากกิจการท่านอยู่ในระดับกลาง หรือขนาดเล็ก ที่มีงบประมาณ 1 แสนถึง 1 ล้านต้น ๆ แนะนำให้ใช้ซอฟท์แวร์กลุ่มนี้ เนื่องจากราคา และความสามารถในการปรับแต่งระบบให้เข้ากับองค์กรของท่านได้ด้วย
สังเกตได้ว่าผู้เขียนระบุว่า Odoo เป็นทั้งกลุ่มซอฟท์แวร์ระดับโลกและโอเพ่นซอร์ส เนื่องจาก
Odoo รวมข้อดีของกลุ่มซอฟท์แวร์ทั้ง 2 ประเภท เข้าไว้ด้วยกันอย่างน่าสนใจเป็นอย่างมาก
ทำความรู้จักกับ Odoo
Odoo ย่อมาจาก "On Demand Open Object" มีความหมายว่า การเพิ่มฟังก์ชั่นได้ตามความต้องการ Odoo คือ ชุดโปรแกรมจัดการทางธุรกิจที่สามารถบูรณาการระบบให้ทุกส่วนภายในองค์กรทำงานเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้ โดยระบบ Odoo ถือกำเนิดมาจากประเทศเบลเยี่ยม คิดค้นขึ้นโดย Mr. Fabien Pinckaers ในปี ค.ศ. 2002 โดยแต่เดิมมีชื่อว่า "TinyERP" จากนั้นได้เปลี่ยนชื่อเป็น "OpenERP" และได้เปลี่ยนชื่อเป็น "Odoo" และใช้มาตลอดจนถึงปัจจุบันระบบ Odoo
เป็นเว็บไซต์ที่เขียนด้วยภาษา Python ซึ่งเป็นภาษายอดนิยมของ ERP System ติดตั้งง่าย ใช้งานสะดวก รวมถึงสามารถพัฒนาและปรับแต่งให้ครอบคลุมกับการทำงานขององค์กรธุรกิจได้
ขีดความสามารถด้านการแข่งขันของ Odoo
1) ความยืดหยุ่น (Flexible) จากการที่เป็นกลุ่มซอฟต์แวร์ประเภท Open Source ที่มีฟังก์ชันให้สามารถปรับแต่งให้เข้ากับลักษณะงานของธุรกิจแต่ละประเภท อย่างเช่น ซื้อมาขายไป ผลิต งานบริการ การเช่าซื้อ ฯลฯ ทั้งนี้ ยังสามารถติดตั้งส่วนเสริม (Extension Module) ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น การซื้อ การขาย บัญชี และอีกหลากหลาย ที่มีผู้พัฒนาอิสระได้พัฒนาขึ้นมาอย่างมากมายในแต่ละเดือน
2) คุณสมบัติ (Characteristic) มีโมดูลการทำงานที่ครอบคลุมการดำเนินการทางธุรกิจพื้นฐานต่าง ๆ และสามารถปรับแต่งโมดูลเหล่านั้นได้ตามความเหมาะสม
3) เทคโนโลยี (Technology) ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการพัฒนาบนพื้นฐานของ MVC, Web base, SaaS และออกเวอร์ชั่นซอฟแวร์ใหม่ ๆ อยู่สม่ำเสมอ
โดยปัจจุบัน Cybernetics+ เป็น Odoo Official Partner โดยอยู่ในระดับ Silver Partner ซึ่งเป็น Partner ประจำประเทศไทยที่ใช้ระยะเวลา "เร็วที่สุด" ในการอยู่ในระดับ Silver ด้วยอัตราการเติบโตของพวกเรา ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่ลูกค้ามีต่อ Cybernetics+ ถ้าหากธุรกิจของท่านมีความสนใจเกี่ยวกับ Odoo ต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมก็สามารถติดต่อ Cybernetics+ มาได้ในแบบ 24/7 ติดต่อทีม Cybernetics+ เพื่อพูดคุยรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่