ทำงานร่วมกับเพื่อนร่วมงานที่ต่าง Generation อย่างไร
การทำงานในสถานที่ทำงานที่มีความแตกต่างของ Generation และ ช่วงอายุที่หลากหลาย ในบริษัทเดียวกันอาจเป็นสิ่งที่ท้าทาย แต่ก็เป็นช่องทางในการสร้างผลงานที่หลากหลาย จากการเรียนรู้จากแนวคิดผู้อื่น การขยายขอบเขตทางความคิด และพัฒนาทักษะใหม่ๆ ด้วยในเวลาเดียวกัน
ในบทความนี้ เราจะนำเสนอวิธีการประสบความสำเร็จในสถานที่ทำงานที่มีหลากหลาย Generation โดยการยอมรับความแตกต่างระหว่างวัย และเรียนรู้จากผู้อื่นในทีมด้วนความเข้าใจ
ยอมรับว่ามีแนวคิดที่แตกต่าง
ไม่แนวคิดที่ถูกต้องเสมอ และ ผิดถาวร
ก้าวแรกสู่ความสำเร็จในการทำงานในบริษัทที่มีเพื่อนร่วมงานหลากหลายวัยคือการยอมรับความแตกต่าง แต่ละเจเนอเรชันมีประสบการณ์และมุมมองเฉพาะของตัวเอง ด้วยการยอมรับและเคารพในความแตกต่างเหล่านี้ คุณจะสามารถสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่เป็น positive environment และครอบคลุมมากขึ้น เนื่องจากกลุ่มลูกค้าของบริษัทเราก็เปลี่ยนแปลงตาม Generation ไปอย่างคล้องจองกับพนักงานในบริษัทเราเช่นกัน
เปิดรับฟังข้อเสนอและแนวคิด
เปิดรับฟังข้อเสนอที่แตกต่าง
เพื่อการทำงานกับผู้คนต่าง generation อย่างมีประสิทธิภาพ สิ่งสำคัญคือต้องฝึกฝร คือการฟังอย่างตั้งใจ ซึ่งหมายถึงการใช้เวลาในการทำความเข้าใจมุมมองของพวกเขา ถามคำถาม และเปิดโอกาสให้คนอื่นๆชี้แจงความเข้าใจที่ไม่ตรงกัน การรับฟังผู้อื่นจะช่วยให้คุณได้รับข้อมูลเชิงลึกและแนวคิดใหม่ๆ ที่จะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในที่ทำงานได้เช่นกัน
Baby Boomers
มีแนวโน้มที่จะมุ่งเน้นการทำงาน "เป็นทีมและทำงานร่วมกัน และให้ความสำคัญกับการสื่อสารและความสัมพันธ์ พวกเขามักชอบการสื่อสารแบบเห็นหน้ากัน" และอาจไม่ค่อยสะดวกใจกับการทำงานหรือเทคโนโลยีจากระยะไกล
Millennials
มุ่งเน้นในการทำงานอย่างมีจุดมุ่งหมาย ความรับผิดชอบต่อสังคม และการผสานการทำงานกับชีวิตเข้าด้วยกัน พวกเขามีแนวโน้มที่จะทำงานร่วมกัน เน้นการทำงานเป็นทีม และให้ความสำคัญกับการสื่อสารและข้อเสนอแนะอย่างเปิดเผย พวกเขามักชอบสภาพแวดล้อมการทำงานที่ยืดหยุ่น รวมถึงตัวเลือกการทำงานจากระยะไกลและการใช้เทคโนโลยีเพื่ออำนวยความสะดวกในการสื่อสารและประสิทธิภาพการทำงาน
Generation X
เป็นที่รู้จักในด้านความเป็นอิสระ การปรับตัว และการพึ่งพาตนเอง พวกเขามักจะเข้าใจเทคโนโลยี คุ้นเคยกับการทำงานจากระยะไกล และให้ "ความสำคัญกับความสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน" พวกเขามักชอบทำงานแบบอิสระและอาจไม่สนใจโครงสร้างแบบลำดับชั้น
Generation Z
เป็นที่รู้จักใช้เทคโนโลยีมาปรับใช้ในการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ และมักจะชอบทำงานที่มีสำคัญ พวกเขามีแนวโน้มที่จะเป็นผู้ประกอบการอิสระและให้ความสำคัญกับความหลากหลายและการไม่แบ่งแยก พวกเขามักชอบสภาพแวดล้อมการทำงานที่ยืดหยุ่นและอาจกังวลกับเส้นทางอาชีพแบบดั้งเดิมน้อยกว่า พวกเขาคุ้นเคยกับการทำงานจากระยะไกลและอาจจัดลำดับความสำคัญของสมดุลชีวิตการทำงาน
ปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงาน
ให้เหมาะสมกับแต่ละ generation
แต่ละเจเนอเรชันมีสไตล์การทำงานที่ตนเองชื่นชอบ การปรับตัวให้เข้ากับความแตกต่างเหล่านี้ คุณจะสามารถสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ตัวอย่างเช่น พนักงานที่มีอายุมากกว่าอาจชอบการสื่อสารแบบตัวต่อตัว ในขณะที่พนักงานอายุน้อยอาจชอบการสื่อสารแบบดิจิตอล เพื่อให้มีความยืดหยุ่นและง่ายต่อการปรับตัว
ตระหนักถึงข้อดีของและนำมาใช้
นี่อาจหมายถึงการตระหนักและเห็นคุณค่าของการมีส่วนร่วมของเพื่อนร่วมงานจากรุ่นต่างๆ การรับทราบถึงวัฒนธรรม แนวคิดต่างรุ่น และสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ต้อนรับและมีส่วนร่วมสำหรับทุกคน โดยมีข้อดีต่างๆที่จะได้มา ดังนี้
- การแก้ไขปัญหาและรูปแบบการตัดสินใจที่หลากหมายมากยิ่งขึ้น
- เพื่อแนวคิดที่สร้างสรรค์ และ การนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาใช้งาน
- เข้าใจแนวคิดลูกค้ารุ่นใหม่ๆ มากขึ้น
- เพื่ออัตราการสมัครเข้าทำงานของบริษัทที่เข้าใจคนรุ่นใหม่ และ ลดอัตราการลาออก
- องค์กรมีความยั่งยืนและทันสมัยมากขึ้น
Start writing here...